“ตำรวจ ชุดสืบ ภาค 2″ผนึกกำลัง กับ ภ.จว.จันทบุรี บุกทลายปาตี้ยา มั่วสุ่ม ท้าทายมาตราการป้องฯ โควิด ยึดปืน ยาเค ไอซ์ เกลื่อน ผตห. 50 คน

“ตำรวจ ชุดสืบ ภาค 2″ผนึกกำลัง กับ ภ.จว.จันทบุรี บุกทลายปาตี้ยา มั่วสุ่ม ท้าทายมาตราการป้องฯ โควิด ยึดปืน ยาเค ไอซ์ เกลื่อน ผตห. 50 คน

 

เมื่อวันที่ 11 มีนาคม 2565 เวลา 00.15 น. กลางดึกที่ผ่านมา พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.ภ.2, พล.ต.ต.อิทธิพร โพธิ์ทอง รอง ผบช.ภ.2 ได้สั่งการ ให้ พล.ต.ต. ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.ภ.2, พล.ต.ต.นราเดช กลมทุกสิ่ง ผบก.ภ.จว.จันทบุรี, พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.สส.ภ.จว.จันทบุรี ซึ่งนำโดย พ.ต.อ.ยอดชาย จำปาทอง ผกก.สส.ภ.จว.จันทบุรี พร้อมด้วย พ.ต.อ.ภัสพงษ์ มีอนันต์ ผกก.สภ.แหลมสิงห์ ได้ประสานเจ้าพนักงานฝ่ายปกครอง อ.แหลมสิงห์ จว.จันทบุรี ได้ร่วมกันจับกุมตัว กลุ่มวัยรุ่นชายและหญิงซึ่งรวมตัวกันในลักษณะมั่วสุมกันเสพยาเสพติดด้วการจัดปาร์ตี้ยา เสี่ยงต่อการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด 19 ที่ ฮาน่า รีสอร์ท เลขที่ 50 ม.5 ต.บางกะไชย อ.แหลมสิงห์ จว.จันทบุรี

โดยมีผู้ฝ่าฝืนในการกระทำความผิดรวมทั้งหมด 43 คน เป็นชาย 33 คน หญิง 10 คน พร้อมด้วยของกลางประกอบด้วย(1)วัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาทประเภท 2 (ยาเค) ลักษณะเป็นผง บรรจุในถุงพลาสติกใสแบบมีที่กดปิดดึงเปิดที่ปากถุง รวม น้ำหนักประมาณ 12 กรัม (2)ยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาอี) บรรจุอยู่ในถุงพลาสติกใสแบบมีที่กดปิดดึงเปิดที่ปากถุง รวม จำนวน 10 เม็ด (3)อาวุธปืนสั้น ออโตเมติก ขนาด 11 มม. จำนวน 1 กระบอก พร้อมแม็กกาซีน จำนวน 2 ซอง (ไม่มีกระสุน)

โดยกล่าวหาว่า ร่วมกันมีวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาทประเภท 2 (เคตามีน) ไว้ในความครอบครองโดยผิดกฎหมาย,เสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีน) โดยผิดกฎหมาย , ร่วมกันชุมนุมหรือทำกิจกรรมหรือการมั่วสุมในลักษณะที่เสี่ยงต่อการแพร่เชื้อโรค ตาม พ.ร.ก.บริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินฯ และร่วมกันชุมนุมทำกิจกรรมหรือการมั่วสุมกัน ณ ที่ใดอันเป็นการมั่วสุมในลักษณะที่แพร่ต่อโรคระบาดได้ตาม พ.ร.บ.ควบคุมโรคฯ


กรณีดังกล่าวนั้น เหตุจากที่เจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.สส.ภ.2 ได้รับแจ้งผ่านลาดตระเวนออนไลน์ สืบ ภ.2 ว่าที่ เดอะบลูฮาน่ารีสอร์ท ลักษณะเป็นที่พักพูลวิลล่าติดชายทะเล มีกลุ่มวัยรุ่นชาย-หญิง ทั้งจากจังหวัดใกล้เคียงและในพื้นที่ ซึ่งเกี่ยวข้องกับธุรกิจเงินกู้นอกระบบ จะเดินทางจากกรุงเทพมหานคร และจังหวัดระยอง จำนวนประมาณ 40-50 คน มาเช่าจัดงานปาร์ตี้วันเกิด ซึ่งจะมีการจัดหายาเสพติดประเภทยาเค และยาอี มารวมและแบ่งปันกันเสพ

ต่อมา ชุดสืบสวนจึงได้รายงานให้ พล.ต.ต. ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ทราบและสั่งการให้ พ.ต.อ.บัญชา คล้ายน้อย ผกก.สืบสวน 2 บก.สส.ภ.2 วางแผนการจับกุมทันที เกรงว่าจะเป็นแหล่งแพร่ระบาดโรคตามนโยบายของ พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร.

 


ซึ่ง พ.ต.อ.บัญชา คล้ายน้อย ผกก.สืบสวน 2 บก.สส.ภ.2 กับพวกได้ประสานกก.สส.ภ.จว.จันทบุรี , สภ.เขาสมิง และ ฝ่ายปกครอง อ.เขาสมิง นำกำลังเดินทางไปตรวจสอบ โดยจัดเจ้าหน้าที่ตำรวจนอกเครื่องแบบไปซุ่มดูและสังเกตการณ์โดยรอบบริเวณอาคาร ซึ่งประตูทางเข้าเปิดไว้ ส่วนกำลังที่เหลือได้ปิดล้อมไว้โดยรอบบริเวณด้านนอกเพื่อป้องกันการหลบหนี เมื่อชุดที่ซุ่มสังเกตการณ์ด้านในรายงานว่า มีการมั่วสุมเสพยาเสพติดกันอยู่จริง โดยรวมตัวกันในลักษณะไม่เว้นระยะห่างตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด 19 จึงส่งสัญญาณให้ชุดปฏิบัติการตามแผน โดยชุดที่แต่งกายนอกเครื่องแบบและซุ่มดูอยู่ ได้จู่โจมเข้าไปแสดงตัวเป็นเจ้าพนักงานตำรวจขอตรวจค้น เมื่อทั้งหมดทราบว่าเป็นเจ้าพนักงานตำรวจ มีท่าทีตกใจและพยายามหลบหนี เจ้าพนักงานตำรวจชุดที่โอบรอบไว้ จึงร่วมกันเข้าไปควบคุมตัวไว้ได้ทั้งหมด จากการตรวจค้นพบยาเสพติดกลางและอาวุธปืนดังกล่าวอยู่ในครอบครองของกลุ่มชายหญิงที่มาร่วมมั่วสุ่มเสพยากันภายในบ้านหลังดังกล่าว

จึงขอทำการตรวจหาสารเสพติดจากน้ำปัสสาวะทั้งหมด ผลการตรวจพบสารเสพติด จำนวน 29 คน ชาย 23 หญิง 6 คน และจากการตรวจค้นยังพบว่าบุคคลทั้งหมดรวมตัวกันจัดกิจกรรมกันโดยไม่เว้นระยะห่างเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด 19 ตาม พรก.ฉุกเฉินฯ จึงจับกุมตัวดำเนินคดีทั้งหมดนำตัวส่ง พงส.สภ.เมืองจันทบุรี ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

โดย พล.ต.ต. ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.ภ.2 กล่าวว่าขอเตือนกลุ่มบุคคลที่ไม่เคารพกฎหมายฝ่าฝืนเป็นต้นเหตุการแพร่ระบาดโรค ไม่นึกถึงส่วนรวมจะต้องถูกจับกุมและดำเนินคดีอย่างเด็ดขาด และขอบคุณสำหรับเบาะแสผ่านทางชุดลาดตระเวนออนไลน์ทุกข้อมูล

Related posts