ทนายไพศาล ทนายความชื่อดัง พาผู้เสียหายถูกโกงเงินฌาปนกิจลูกเสือบ้านเพระยอง บุกร้องพ่อเมืองระยองให้ช่วยเหลือ หลังส่งเงินฌาปนกิจหลายปีแต่กลับไม่ได้เงิน

ทนายไพศาล ทนายความชื่อดัง พาผู้เสียหายถูกโกงเงินฌาปนกิจลูกเสือบ้านเพระยอง บุกร้องพ่อเมืองระยองให้ช่วยเหลือ หลังส่งเงินฌาปนกิจหลายปีแต่กลับไม่ได้เงิน

เมื่อเวลา 14.00 น.วันที่ 13 พ.ย.ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายไพศาล เรืองฤทธิ์ ทนายความชื่อดัง พร้อมผู้เสียหายถูกโกงเงิน ฌาปนกิจลูกเสือบ้านเพระยอง อ.เมือง จ.ระยอง จำนวน 100 คน มีนายกุศล ผิวขาว และนางยุพิน เวียงแจ แกนนำผู้เสียหาย บุกยื่นหนังสือนายไตรภพ วงศ์ไตรรัตน์ ระยอง ขอให้ช่วยเหลือหลังมีการส่งเงินไปแล้ว แต่กลับไม่ได้รับเงิน ปัจจุบันสภาพสมาคมฯ จ่อล่ม โดยมีนายอนันต์ นาคนิยม รอง ผวจ.ระยอง และนายพุฒิการณ์ กิจเกื้อกูล ผอ.ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดระยอง รับเรื่อง พร้อมกันนี้ทางแกนนำ ยังได้มอบช่อดอกไม้ให้กับ รอง ผวจ.ระยอง และทนายไพศาล เพื่อเป็นกำลังใจที่ช่วยติดตามเรื่องให้

ทนายไพศาล กล่าวว่า ชาวบ้านที่เป็นสมาชิก ได้ส่งเงินฌาปนกิจเข้า “สมาคมฌาปนกิจลูกเสือบ้านเพ ระยอง”ตั้งแต่ปี 2530 เป็นต้นมา โดยมีการจ่ายเงินค่าฌาปนกิจมาโดยตลอด จนกระทั่งมีผู้เสียชีวิตแต่ละรายในหลายปีที่ผ่านมาต่อเนื่องมาถึงปัจจุบัน ในบางรายก็ได้เงินบางส่วนซึ่งไม่ตรงกับข้อตกลง มูลค่าความเสียหายนับพันล้านบาท ปัจจุบันสมาคมฯ ส่อปิดแล้ว ที่ผ่านมาชาวบ้าน ได้เข้าร้องกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง แต่ไม่มีความคืบหน้า จึงได้มาร้องทุกข์กับตน ก่อนที่ตนจะรวบรวมข้อมูลประสานผ่านนายกองตรี

ดร.ธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ ผู้ช่วยรัฐมนตรี ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ยื่นหนังสือถึงนายสมศักดิ์ เทพสุทิน รองนายกรัฐมนตรีในขณะนั้น กระทั่งมีการส่งเรื่องมายัง ผวจ.ระยอง ตนพร้อมชาวบ้านที่เดือดร้อนจึงเดินทางมาติดตามเรื่องในวันนี้ เพื่อให้ทางจังหวัดหาทางช่วยเหลือชาวบ้านที่ได้รับความเดือดร้อน หาผู้กระทำผิดออกมารับผิดชอบ และต้องถูกดำเนินคดีอย่างเด็ดขาดไม่เป็นแบบอย่างที่ทำให้คนอื่นเดือดร้อนอีกชนิดที่เรียกว่า ส่งเงินจนตาย เงินฌาปนกิจก็ไม่ได้ แถมด้วยหนี้สินก้อนใหญ่อีก ซึ่งตนยืนยันว่าเรื่องนี้ต้องไม่เงียบแน่นอน

ด้านนายอนันต์ นาคนิยม รอง ผวจ.ระยอง กล่าวว่า เบื้องต้นได้เสนอตั้ง คกก.ระดับจังหวัด เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงที่มาการจัดตั้งสมาคมฯ และการดำเนินการที่ผ่านมาตั้งแต่ 2530 เป็นอย่างไรบ้าง และการเยียวยานั้นต้องให้ได้ผลการสอบข้อเท็จจริงก่อน และสืบหาเงินที่ชาวบ้านส่งว่าอยู่ที่ไหน เหลือเท่าไหร่ เรียกร้องให้กับสมาชิกได้เท่าไหร่ ซึ่งข้อมูลทั้งหมดต้องชัดเจน จึงจะสามารถเข้าสู่กระบวนการเยียวยาช่วยเหลือต่อไปได้.

 

Related posts