ตำรวจภูธรจังหวัดระยอง ตั้งด่านตรวจเข้ม หลังมีการประกาศใช้ระเบียบตัดคะแนนความประพฤติในการขับขี่

ตำรวจภูธรจังหวัดระยอง ตั้งด่านตรวจเข้ม หลังมีการประกาศใช้ระเบียบตัดคะแนนความประพฤติในการขับขี่ หรือตัดแต้มใบขับขี่ พบประชาชนขาดการต่อทะเบียน และผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์ไม่สวมหมวกกันน็อกหลายราย

เมื่อเวลา 10.00 น.วันที่ 12 ม.ค.ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.ต.ต.พงศ์พันธ์ วงษ์มณีเทศ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดระยอง ได้สั่งการให้ พ.ต.ท.สุระพล จิตรักษ์ รองผู้กำกับการจราจร สภ.เมืองระยอง ลงพื้นที่ไปติดตามการกวดขันวินัยจราจรของเจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่บริเวณด่านตรวจหน้าเทศบาลตำบลเชิงเนิน ต.เชิงเนิน อ.เมือง จ.ระยอง ซึ่งเป็นมาตรการเข้มงวดกวดขันวินัยจราจร หลังสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้กำหนด“ระเบียบว่าด้วยหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขเกี่ยวกับระบบการบันทึกคะแนนความประพฤติในการขับรถของผู้ได้รับใบอนุญาตขับขี่ พ.ศ.2565”

ซึ่งออกตาม พ.ร.บ.จราจรทางบก พ.ศ.2522 และที่แก้ไขเพิ่มเติม มาตรา 142/1 โดยมีผลบังคับใช้ในวันที่ 9 ม.ค.2566 เป็นต้นมา ซึ่งเป็นมาตรการเสริมในการสร้างวินัยการขับขี่เพิ่มเติมจากการออกใบสั่งเพื่อบังคับใช้กฎหมายตามปกติ จากการตั้งด่านตรวจเข้มพบว่าผู้ขับส่วนใหญ่พบผู้ขับรถขาดการต่อทะเบียน และ พ.ร.บ.รถยนต์และรถจักรยานยนต์ ซึ่งได้ถูกเปรียบปรับ เนื่องจากไม่อยู่ระเบียบ หลักเกณฑ์การตัดแต้มใบขับขี่ และผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์ไม่สวมหมวกกันน็อกหลายราย ได้มีการตัดแต้มใบขับขี่

ทั้งนี้ระบบตัดคะแนนความประพฤติในการขับขี่ หรือตัดแต้ม โดยผู้ขับขี่ทุกคนต้องมีใบขับขี่ และไม่ว่าจะมีใบขับขี่กี่ประเภท จะมีคะแนนบันทึกไว้คนละ 12 คะแนน หากทำผิดกฎจราจรในข้อหาที่กำหนดจะถูกตัดคะแนน 1-4 คะแนน หรือหากค้างชำระค่าปรับจราจรในข้อหาที่กำหนดจะถูกหัก 1 คะแนน เจ้าหน้าที่ตำรวจจะบันทึกข้อมูลการกระทำผิดกฎจราจรของผู้ขับขี่ตามใบสั่ง ลงในระบบ PTM และจะตัดคะแนนในข้อหาที่กำหนดตามหลักเกณฑ์ และเงื่อนไข หากถูกตัดคะแนนจนเหลือ 0 จะถูกพักใช้ใบขับขี่ 90 วัน

ซึ่งฝ่าฝืนขับรถระหว่างถูกพักใช้ใบขับขี่มีโทษจำคุกไม่เกิน 3 เดือน และ/หรือปรับไม่เกิน 10,000 บาท โดยสามารถเข้าอบรมเพื่อคืนคะแนนกับกรมการขนส่งทางบก และหากไม่ปรับปรุงพฤติกรรมขับรถจนถูกพักใช้ใบขับขี่ซ้ำๆ อาจถูกเพิกถอนใบขับขี่ทุกประเภท ซึ่งวิธีตรวจสอบคะแนนใบขับขี่มี 2 ช่องทางที่ Police Ticket Management เว็บไซต์ https://ptm.police.go.th/eTicket และแอปพลิเคชัน “ขับดี KHUBDEE”

Related posts