ไทย สมายล์ บัส เข้าร่วมเป็นบริษัทในกลุ่ม EA สยายปีก ควบรวมรถโดยสารเข้ากับเรือโดยสาร

ไทย สมายล์ บัส เข้าร่วมเป็นบริษัทในกลุ่ม EA สยายปีก ควบรวมรถโดยสารเข้ากับเรือโดยสารยกระดับการขนส่งมวลชนด้วยยานยนต์ไฟฟ้าไร้มลพิษครบวงจร นำร่องช่วยลดการปล่อย CO2 พร้อมสะสม Carbon credit

วันนี้ 24 พฤศจิกายน 2565 ณ ไทย สมายล์ บัส สาขาตลิ่งชัน นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ได้ทำพิธีเปิดให้บริการรถโดยสารพลังงานไฟฟ้าสาย 515 เส้นทาง ศาลายา – อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ซึ่งในวันดังกล่าว บริษัท ไทย สมายล์ บัส จำกัด (หรือ “ไทย สมายล์ บัส”) ยังได้ประกาศผลสำเร็จในการขยายธุรกิจของบริษัทที่สามารถควบรวมกิจการรถโดยสารและเรือโดยสารรวมทั้งสิ้น 21 บริษัท ไว้เป็นกลุ่มเดียวกันภายใต้แนวคิด Thai Smile as One ไทยสมายล์รวมใจเป็นหนึ่ง เป็นผลให้กลุ่มไทย สมายล์ และบริษัทหลักทรัพย์ บียอนด์ จำกัด (มหาชน) (หรือ “BYD”) ได้เข้าไปเป็นบริษัทในกลุ่มบริษัทพลังงานบริสุทธิ์ จำกัด (มหาชน) เป็นที่เรียบร้อยแล้ว

นายสมโภชน์ อาหุนัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัท พลังงานบริสุทธิ์ จำกัด (มหาชน) (หรือ “EA”) ผู้นำด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรมพลังงานสะอาดและด้านยานยนต์ไฟฟ้า กล่าวว่า EA มีจุดยืนที่ชัดเจนที่จะพัฒนาและส่งเสริมการนำยานยนต์ไฟฟ้ามาใช้เพื่อลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกและ PM2.5 ตลอดจนลดต้นทุนพลังงานได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งรถเพื่อการพาณิชย์ที่มีการใช้งานสูง เช่น รถโดยสารประจำทาง รถบรรทุก เป็นต้น EA ได้มองเห็นศักยภาพของ BYD ซึ่งมีการลงทุนในบริษัท ไทย สมายล์ บัส จำกัด อันเป็นกลุ่มบริษัทที่เป็นเจ้าของใบอนุญาตให้บริการรถโดยสารประจำทางจากกรมการขนส่งทางบกจำนวนรวมสูงถึง 80 เส้นทาง และกำลังจะลงทุนเพิ่มอีก 6 เส้นทาง โดยมุ่งเน้นให้บริการด้วยรถโดยสารไฟฟ้าเป็นหลัก จึงนับว่ามีวิสัยทัศน์และแนวคิดที่สอดประสานกันกับกลุ่ม EA อย่างลงตัว

จึงตัดสินใจนำบริษัทย่อยเข้าลงทุนใน BYD ร้อยละ 23.63 คิดเป็นมูลค่าซื้อหุ้นเพิ่มทุน 6,997 ล้านบาท และมีการจัดโครงสร้างด้วยการขายกลุ่มธุรกิจให้บริการรถโดยสารในเครือ EA จำนวน 37 เส้นทาง และเรือโดยสาร 3 เส้นทาง ให้แก่ไทย สมายล์ บัส เพื่อให้มีการควบรวมกิจการในคราวเดียวกัน ส่งผลให้กลุ่มไทยสมายล์มีสายการเดินรถในกรุงเทพฯและปริมณฑลกว่า 120 เส้นทาง และเรือโดยสารอีก 3 เส้นทาง นับเป็นการสร้างเครือข่ายพันธมิตรทางธุรกิจที่เสริมศักยภาพในการพัฒนาธุรกิจด้านยานยนต์ไฟฟ้าของกลุ่ม EA ให้ครบวงจรอย่างแท้จริง และยังเป็นส่วนสำคัญในการสร้างโอกาสทางธุรกิจจากการผลิตรถโดยสารไฟฟ้าของบริษัท แอ๊บโซลูท แอสเซมบลี จำกัด ให้เติบโตได้อย่างก้าวกระโดดและมั่นคง อีกทั้ง EA ได้ร่วมมือกับ BYD ในโครงการขายคาร์บอนเครดิตกับรัฐบาลสวิตเซอร์แลนด์ซึ่งจะสามารถสร้างผลตอบแทนเพิ่มเติมขึ้นอีกในอนาคตได้ ส่งเสริมให้กลุ่ม EA เป็นผู้นำทางด้านยานยนต์ไฟฟ้าที่ครบวงจร

นางสาวกุลพรภัสร์ วงศ์มาจารภิญญา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไทย สมายล์ บัส จำกัด กล่าวว่า บริษัทฯ มีความพร้อมอย่างเต็มที่ที่จะเดินหน้าลงทุนในกิจการรถโดยสารและเรือโดยสารพลังงานไฟฟ้าตามแผนที่วางไว้ โดยได้รับเงินทุนสนับสนุนจาก BYD ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ในรูปเงินให้กู้ยืมถึง 8,550 ล้านบาท และยังได้รับการสนับสนุนอย่างดียิ่งจากกลุ่มพลังงานบริสุทธิ์ทั้งในด้านเทคโนโลยี บุคลากร การวางแผนกลยุทธ์ การบริหารจัดการอย่างมืออาชีพ และการสนับสนุนในทุกๆ ด้านที่สอดประสานกันอย่างเป็นระบบ ทำให้ไทย สมายล์ บัสเชื่อมั่นว่า จะสามารถขยายการให้บริการแก่ประชาชนเพื่อตอบโจทย์ให้ทันใจต่อความต้องการของผู้ใช้บริการได้ตามแผน ทั้งนี้ ได้ประมาณการไว้ว่าต้องใช้เงินลงทุนรวมทั้งสิ้นอีกกว่า 18,000 ล้านบาท และสามารถสร้างงาน สร้างอาชีพ ให้กับพี่น้องประชาชน มากกว่า 7,500 ตำแหน่ง

“เราจะเป็นผู้นำในการพลิกโฉมการให้บริการขนส่งมวลชนสาธารณะของกรุงเทพฯ และปริมณฑลให้เป็นเครือข่ายของระบบให้บริการขนส่งมวลชนด้วยยานยนต์ไฟฟ้าที่ไร้มลพิษและไร้ PM2.5 มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน และครบวงจรเป็นประเทศแรกและใหญ่ที่สุดในเอเชีย ด้วยการให้บริการเส้นทางเดินรถและเดินเรือจำนวนกว่า 120 เส้นทาง เราได้นำเทคโนโลยีมาใช้เชื่อมต่อการเดินทางและการเก็บค่าโดยสารทางบกและทางน้ำเป็นโครงข่ายเดียวกัน (หรือ Single Network) ครอบคลุมพื้นที่ทั่วกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ยกระดับคุณภาพการให้บริการและจัดระบบการควบคุมได้อย่างรัดกุมแบบรวมศูนย์ หรือ (Single Service) และจะนำระบบการคิดค่าโดยสารแบบเหมาจ่าย ภายในโครงข่ายของกลุ่มไทยสมายล์ (หรือ Single Price) เพื่อลดภาระของผู้โดยสาร แนวคิด 3-Single นี้ จะนำไปสู่การสร้างคุณค่าให้กับเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อมของประเทศเพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีของคนไทยทุกคนต่อไป” นางสาวกุลพรภัสร์กล่าว

​ปัจจุบัน กลุ่มไทยสมายล์เปิดให้บริการรถโดยสารสาธารณะแล้ว กว่า 70 เส้นทาง หรือกว่า 900 คัน โดยแบ่งเป็น รถโดยสารพลังงานไฟฟ้า 35 เส้นทาง หรือจำนวนรถที่บริการ 612 คัน และรถโดยสารสาธารณะเอ็นจีวี 37 เส้นทาง หรือคิดเป็นจำนวนรถที่ให้บริการ 365 คัน สำหรับวันที่ 24 พฤศจิกายน 2565 นี้ เป็นวันที่เปิดให้บริการรถโดยสารพลังงานไฟฟ้าสาย 515 เส้นทาง ศาลายา – อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ซึ่งคาดว่า จะได้รับการตอบรับและการสนับสนุนจากผู้โดยสารเป็นอย่างดีดังเช่นทุกครั้งที่ผ่านมา และจากเสียงสะท้อนที่แสดงถึงความพึงพอใจในการใช้บริการรถโดยสารพลังงานไฟฟ้า 100% ของเรา กลุ่มไทยสมายล์จึงมีความยินดีที่จะแจ้งว่า เรามีแผนที่จะเปลี่ยนรถโดยสารทั้งหมด เป็นรถโดยสารพลังงานไฟฟ้าตั้งแต่ต้นปี 2566 เป็นต้นไป

​สำหรับการเดินทางทางน้ำ กลุ่มไทยสมายล์ จะให้บริการเรือโดยสารพลังงานไฟฟ้า ตามลำน้ำเจ้าพระยาจำนวน 3 เส้นทางหรือ 23 ลำ และในอนาคตอันใกล้จะมีเรืออีก 17 ลำ มาให้บริการเพิ่มเติม อันจะส่งเสริมการเชื่อมต่อการเดินทางทั้งทางบก และทางน้ำของผู้โดยสารอย่างไร้รอยต่อ ประหยัดเวลาในการเดินทาง และยังลดภาระค่าครองชีพอีกด้วยรวมไปถึง บริษัทฯ ได้เตรียมความพร้อม ที่จะนำระบบการชำระค่าโดยสารด้วยบัตร HOP มาติดตั้งและเริ่มใช้งานจริง นอกจากจะเป็นการส่งเสริมสังคมไร้เงินสด (Cashless Society) แล้วยังเป็นการปูทางสำหรับโครงสร้างพื้นฐานทางเทคโนโลยีด้านการจ่ายเงิน (Single Price) สำหรับการเดินทางด้วยรถโดยสารสาธารณะ ในโครงข่ายของไทยสมายล์กรุ๊ปกว่า 120 เส้นทาง

นางสาวกุลพรภัสร์ กล่าวทิ้งท้ายว่า กลุ่มไทยสมายล์จะเป็นผู้นำ ในการพลิกโฉมรถและเรือโดยสาร ในระบบขนส่งมวลชนสาธารณะ ของกรุงเทพฯ และปริมณฑล ให้เป็นยานยนต์ไฟฟ้าที่ทันสมัย เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ หรือ ก๊าซเรือนกระจกที่ทำให้เกิดภาวะโลกร้อน ซึ่งจะทำให้กลุ่มไทยสมายล์สามารถขึ้นทะเบียนและรับรองปริมาณก๊าซเรือนกระจก หรือคาร์บอนเครดิตที่มีมูลค่าที่จะซื้อขายได้ในอนาคตอีกด้วย นอกจากนี้ ยังให้ความสำคัญอย่างยิ่งในเรื่องความปลอดภัยและคุณภาพการให้บริการ ค่าโดยสารอยู่ในระดับที่ทุกคนสามารถเข้าถึงได้ ตอบโจทย์ทุกการเดินทางของประชาชน เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีของคนไทยทุกคน อย่างยั่งยืน ซึ่งจะเป็นไปตามเจตนารมณ์ของบริษัทฯ “เดินทางด้วยรอยยิ้ม ใส่ใจสิ่งแวดล้อม”

Related posts